เข้าใจความเสี่ยงทุกการลงทุน ด้วย “ปิรามิดความเสี่ยง”

ทุกการ “ลงทุน” มาพร้อมกับ “ความเสี่ยง” เราในฐานะนักลงทุนต้องทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งก่อนการลงทุน ว่าแต่ละแบบมีความเสี่ยงอยู่ระดับไหน? เพื่อที่เราจะได้เลือกลงทุนในสินทรัพย์ให้ตรงกับความเสี่ยงที่เรารับได้

วันนี้ฮูกเลยนำสิ่งที่เรียกว่า “ปิรามิดความเสี่ยง” มาให้เพื่อน ๆ ได้ทำความเข้าใจกันแบบง่าย ๆ ว่าสินทรัพย์แต่ละแบบมีความเสี่ยงอยู่ระดับไหนกันบ้าง ไปดูกันเลยครับ

1. เงินฝากธนาคาร

มีความปลอดภัยสูง แต่มีผลตอบแทนต่ำ

เป็นการลงทุนที่เสี่ยงน้อยที่สุด เพราะเป็นการที่เอาเงินไปฝากธนาคาร สามารถถอนออกตอนไหนก็ได้ โอกาสที่เงินก้อนนี้จะหายไปก็เลยต่ำเอามาก ๆ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยดอกเบี้ยเงินฝากที่น้อยนิด

2. พันธบัตรรัฐบาล

ผลตอบแทนต่ำ โอกาสผิดนัดชำระน้อย

มีความเสี่ยงกว่านำเงินไปฝากธนาคารนิดหน่อย เพราะอาจมีความเสี่ยงเรื่องราคาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย แต่พันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจ จะมีโอกาสผิดนัดการจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นน้อย

3. หุ้นกู้

ออกโดยเอกชน ทำให้มีโอกาสผิดนัดชำระมากขึ้น

ต่างจากการออกโดยรัฐ เพราะผู้ออกเป็นเอกชน เลยมีโอกาสผิดนัดในการจ่ายดอกเบี้ยและคืนเงินต้นสูงขึ้น ความเสี่ยงจึงสูงขึ้นตาม

4. กองทุนรวม

ความเสี่ยงขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่ลงทุน

กองทุนรวมมีความเสี่ยงหลายระดับ อยู่ที่ว่ากองทุนนั้นเอาเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อะไร เช่น ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล (ความเสี่ยงต่ำ), ลงทุนในหุ้นกู้ (ความเสี่ยงก็ขยับขึ้นมาเล็กน้อย), ลงทุนผสมทั้งหุ้นและตราสารหนี้ (ความเสี่ยงปานกลาง), ลงทุนในหุ้น (ความเสี่ยงสูง), ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ น้ำมัน (ความเสี่ยงสูงมาก) เป็นต้น

5. หุ้น

ผลตอบแทนสูง แต่ความเสี่ยงก็สูงเช่นกัน

เพราะการลงทุนในหุ้น ก็คือการนำเงินไปลงทุนในกิจการเพื่อร่วมเป็นเจ้าของในบริษัทนั้น ๆ การที่บริษัทได้กำไรมาก ผลตอบแทนที่ผู้ถือหุ้นได้รับก็มากตามไปด้วย ในทางกลับกันหากบริษัทขาดทุนหรือล้มละลาย ผู้ถือหุ้นก็ต้องร่วมรับผิดชอบกับการสูญเสียนี้ด้วยเช่นกัน

6. อนุพันธ์

ความเสี่ยงสูง โอกาสได้กำไรมากแต่ขาดทุนได้มาก

ตราสารอนุพันธ์เป็นตราสารที่ใช้สิ่งของในการอ้างอิงราคา เช่น ราคาข้าว ราคาน้ำมัน ราคาทอง โดยเป็นการซื้อของนั้นมาเพื่อเก็งกำไรในอนาคต แต่เพราะปัจจัยที่ส่งผลต่อราคามีเยอะมาก ๆ เลยทำให้คาดการณ์ได้ยาก โอกาสที่จะผิดจากที่คาดไว้จึงสูง และผลตอบแทนก็อาจจะแตกต่างจากที่คาดไว้เยอะด้วยเช่นกัน

และพิเศษ !! ขอรับคำปรึกษาฟรี “โปรแกรมหลักสูตรพัฒนาทักษะการเงินสำหรับองค์กร และโรงเรียน” 
โปรแกรมหลักสูตรพัฒนาการเงินสำหรับองค์กร - Money Class
หลักสูตรสำหรับโรงเรียนเพื่อพัฒนาทักษะการเงิน - Money Class