ทำไม Employee Engagement ถึงทำให้พนักงานอยู่นานขึ้น

ทำไม Employee Engagement ถึงทำให้พนักงานอยู่นานขึ้น?

ทำไม Employee Engagement ถึงทำให้พนักงานอยู่นานขึ้น?
จะอยู่ต่อ หรือเดินจากไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากครับ ไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทน หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน
 
แต่ก็มีพนักงานจำนวนหนึ่งเช่นกันที่ลาออก ไม่ใช่เพราะเรื่องเหล่านี้ แต่เป็นเพราะขาดความผูกพันกับองค์กร รู้สึกไม่เข้ากับ Company Culture ดังนั้น หาก HR หรือองค์กรอยากลดอัตราการลาออก เพิ่มความสุขให้พนักงาน
การสร้าง Employee Engagement ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจครับ
 
วันนี้ฮูกเลยขอมาแนะนำ Employee Engagement ที่ทำแล้ว จะช่วยให้พนักงานอยากอยู่กับองค์กรนานยิ่งขึ้นกว่าเดิม
 
 

1. พัฒนา Career Path

พนักงานทุกคนล้วนแต่อยากเติบโตก้าวไปข้างหน้า แต่หลายคนก็ต้องตัดสินใจบอกลาองค์กร เพราะมองหาเป้าหมายทางสายงานตัวเองไม่เจอในที่แห่งนี้ ดังนั้น เพื่อรักษาให้พนักงานเก่งๆ อยู่นานขึ้น องค์กรควรช่วยวางแผน Career Path ของพนักงานให้ชัดเจนว่า สามารถเติบโตไปเป็นอะไรได้อีกในอนาคต รวมถึงการจัดเทรนนิ่งพัฒนาสกิล ให้เขามีสามารถมากพอที่จะเติบโตไปยังเป้าหมายที่วางไว้ และเพื่อไม่ให้พนักงานรู้สึกว่าเขากำลังถูกทอดทิ้ง หรือรู้สึกหมดหวังกับ Career Path ที่คลุมเครือ องค์กรควรจัด Session เล็กๆ เพื่อพูดคุยกับพนักงานในประเด็นนี้ เพื่อให้เขาเห็นถึงเป้าหมายและการเติบโตที่ชัดเจนขึ้นครับ
 
 

2. สนับสนุน Work-Life-Balance

จากผลสำรวจของ LinkedIn ปี 2021 พบว่า นอกจากเรื่องค่าตอบแทนและสวัสดิการแล้ว Work-Life Balance กลายเป็นสิ่งที่พนักงานมองหามากขึ้น เมื่อพนักงานรู้สึกว่าเหนื่อยจากงานหนัก และเริ่ม Burnout ก็จะเริ่มมองหาโอกาสใหม่ๆ ที่ทำให้ มีความสมดุลระหว่างงานและเรื่องส่วนตัวมากขึ้น หากอยากให้พนักงานอยู่นานขึ้น เราสามารถสนับสนุนแนวคิด Work-Life Balance ในองค์กรขึ้นมาได้ และทำได้ไม่ยากเลยครับ อย่างเช่น ให้วันหยุดพนักงานเพิ่มขึ้น เลี่ยงการทำงานเกินเวลา หรือจัดแคมเปญรณรงค์ไม่ส่งอีเมลหลังเลิกงาน หรือในช่วงวันหยุด
 
 

3. จับคู่ Mentor เพิ่มแรงซัพพอร์ต

จากผลสำรวจของ Sum Microsystems พบว่า อัตราพนักงานอยู่กับองค์กรเพิ่มขึ้นถึง 72% เมื่อมีการจับคู่ Mentor หรือพี่เลี้ยงให้กับพนักงาน นั่นเป็นเพราะว่า Mentor สามารถสร้างความรู้สึกที่ดีต่อพนักงานได้ โดยเฉพาะพนักงานที่เข้ามาใหม่ เพราะเขาจะรู้สึกว่า มีคนที่คอยให้ความช่วยเหลือในตลอดช่วงเวลาที่ทำงานที่นี่ อีกทั้งยังได้เพื่อนสนิทในที่ทำงาน ช่วยให้เกิดความผูกพันในองค์กรมากขึ้น ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเมื่อทำงานอยู่ที่นี่ และยังมีอีกผลสำรวจที่น่าสนก็คือ พนักงานที่มีเพื่อนสนิทในที่ทำงาน จะเอ็นเกจกับงานและลาออกน้อยกว่าคนที่ไม่มีเพื่อนสนิทถึง 7 เท่าเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเจอเรื่องยากแค่ไหน ถ้ามีเพื่อนดีๆ สักคน ก็ช่วยทำให้ทุกวันที่มาทำงานสนุกและรู้สึกว่ายังมีพื้นที่ปลอดภัย
 
 

4. เพิ่มการสื่อสารในองค์กร

การทำงานในยุคนี้มีความ Hybrid มากขึ้น ทำให้โอกาสเจอหน้ากันที่ออฟฟิศน้อยลงกว่าสมัยก่อน ทำให้สิ่งที่ขาดหายไป คือ การพูดคุยสื่อสาร และสิ่งนี้ก็กระทบต่อ Engagement ในองค์กรตามมา ดังนั้น เราควรเพิ่มการสื่อสารในองค์กรมากขึ้น ทั้งในแบบออฟไลน์ในออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมเล็กๆ ในออฟฟิศ เช่น โดนัทฟรีทุกวันศุกร์ เพื่อให้ทุกคนผ่อนคลาย กินขนมอร่อยๆ และเปิดโอกาสให้ได้พูดคุยกัน เล่นบัดดี้ภายในแผนก เพิ่มความสนุก สนิทสนมในทีมมากขึ้น หรือการใช้สื่ออนไลน์ให้เป็นประโยชน์ เช่น มีกรุ๊ป Facebook เอาไว้อัปเดตข่าวสารภายในองค์กร หรือจัดกิจกรรม Challenge ออนไลน์ แม้ทำงานอยู่บ้าน ก็ไม่เหงา เป็นต้น เพื่อให้พนักงานรู้สึกว่า ยังเป็นส่วนหนึ่งในองค์กร มีคนถามถึง มีเพื่อนในที่ทำงานเห็นความสำคัญ ไม่ได้มีใครหายไปไหน
 
 

5. เห็นคุณค่าพนักงาน

ถ้าองค์กรมองเห็นคุณค่าในสิ่งที่พนักงานทำอยู่ จะช่วยเสริมกำลังให้พนักงานอยากทำงานต่อไป และทำให้ดีขึ้นไปเรื่อย อีกทั้งยังสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรด้วย แต่สิ่งที่มักเกิดขึ้นก็คือ พนักงานหลายคนต้องตัดสินใจเดินจากไป เพราะไม่มีใครมองเห็นคุณค่าที่เขามี เพื่อให้พนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและส่วนสำคัญในองค์กร เลยต้องทำให้พนักงานรู้สึกว่า องค์กรเห็นคุณค่าของพวกเขาเสมอ ด้วยการกล่าวชมเชยบ่อยๆ เมื่อพนักงานทำงานได้ดี รวมไปถึงการยกย่องความดีความชอบที่พนักงานทุ่มเทให้คนทั้งบริษัทให้เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวางในองค์กร ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยทำให้พนักงานรู้สึกว่า องค์กรยังเห็นความสำคัญและคุณค่าในสิ่งที่เขาทำอยู่
.
สมัยนี้อัตราการลาออกของพนักงานมีแนวโน้มสูงขึ้น จนสร้างผลกระทบต่อองค์กร ดังนั้น เรื่อง Employee Engagement จึงเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่องค์กรควรให้ความสำคัญมากขึ้น เพราะงานขับเคลื่อนได้ด้วยผู้คน การทำให้ที่ทำงานมีชีวิตมากขึ้น จะช่วยเพิ่มความสุขของพนักงาน ให้อยากอยู่กับสถานที่แห่งนี้ต่อไปครับ
และพิเศษ !! ขอรับคำปรึกษาฟรี “โปรแกรมหลักสูตรพัฒนาทักษะการเงินสำหรับองค์กร และโรงเรียน”
โปรแกรมหลักสูตรพัฒนาการเงินสำหรับองค์กร - Money Class
หลักสูตรสำหรับโรงเรียนเพื่อพัฒนาทักษะการเงิน - Money Class